| |||
สาระดีๆเกี่ยวกับสุขภาพ
วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554
เตือนวัยรุ่นกินยา ‘หน้าใส-ผิวสว่าง’ อันตรายถึงตาย
วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554
ความหมายดีๆ เกี่ยวกับคนที่รักกัน
|
งูสวัด เกิดจากการอดนอนได้ !!
วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554
เตือนภัยคนกินหวาน ระวังสมองเฉื่อย ความต้านทานต่ำ
| |
| |
โดย :JaAey..Ja (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันจันทร์ ที่ 10 มกราคม 2554 เวลา 07:11 น.]
วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553
คนนอนตื่นสายฉลาด
ดร.พีนูซ์พบว่า คนนอนตื่นสายเหนื่อยช้ากว่าคนนอนตื่นเช้า หลังจากที่ทดลองกับอาสาสมัครเพื่อวัดปฏิกิริยาและความตั้งใจในการทำงาน ซึ่งระหว่างวันนั้นทั้งสองกลุ่มทำงานดีเท่าๆ กันหลังจากตื่นนอนเพียงไม่นาน แต่เมื่อทำงานไปได้ 10 ชั่วโมงผู้ที่นอนตื่นสายทำงานเร็วกว่าและตื่นตัวกว่าผู้นอนตื่นเช้า ผู้นอนตื่นเช้ายังรู้สึกง่วงนอนมากกว่า จากการสแกนสมองยืนยันว่าส่วนของสมองที่เกี่ยวข้องกับความตั้งใจทำงานน้อยลง การนอนตื่นสายนั้นอยู่ในดีเอ็นเอของมนุษย์ พันธุกรรมยังเป็นตัวบ่งชี้คนนอนตื่นเช้าหรือตื่นสาย คนนอนตื่นสายยังฉลาดกว่า ตัดสินใจรวดเร็วกว่า และมีความจำดีกว่า มีรายได้มากกว่าคนนอนตื่นเช้า ซึ่งคนนอนตื่นสายมีทั้งชาร์ลส์ ดาร์วิน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และวินสตัน เชอร์ชิล ที่มักเข้านอนตอนตี 4 และตื่นสาย |
วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553
อาหารที่แพทย์จีนเตือน (แต่มันเป็นอาหารที่เราชอบรับประทานกัน)
1. ไข่เยี่ยวม้า : ไข่เยี่ยวม้ามี ตะกั่วค่อนข้างสูง ตะกั่วทำให้การดูดซึมแคลเซียมน้อยลง กินบ่อยๆ จะเสี่ยงโรคกระดูกโปร่งบาง และอาจได้รับพิษตะกั่ว เช่น สมองเสื่อม เป็นหมัน ฯลฯ 2. ปาท่องโก๋ : กระบวนการทำปาท่องโก๋มีการใช้สารส้ม ซึ่งมีตะกั่วปนเปื้อน ตะกั่วทำให้ไตทำงานหนักในการขับสารนี้ออกไป นอกจากนั้นยังทำให้คอแห้ง เจ็บคอง่าย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคร้อนในได้ง่าย 3. เนื้อย่าง : กระบวนการรมไฟ ย่างไฟทำให้เกิดสารเบนโซไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง 4. ผักดอง : ผักดอง และของหมักเกลือทำให้ร่างกายได้รับเกลือโซเดียมสูง ถ้ากินบ่อยเกิน หรือมากเกินจะทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดความดันเลือดสูง และโรคหัวใจได้ง่าย นอกจากนั้นกระบวนการหมักดองยังทำให้เกิดสารแอมโมเนียมไนไตรด์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง 5. ตับหมู : ตับหมูมีโคเลสเตอรอลสูง การกินตับหมูบ่อยเกิน หรือมากเกินทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ เส้นเลือดสมอง(อัมพฤกษ์-อัมพาต) และโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น 6. ผักขม ปวยเล้ง : ผักขมและปวยเล้งมีสารอาหารสูง ทว่า... มีกรดออกซาเลตมาก ทำให้เกิดการขับสังกะสี และแคลเซียมออกจากร่างกายมาก การกินบ่อยเกิน หรือมากเกินอาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลเซียม หรือสังกะสีได้ 7. บะหมี่สำเร็จรูป : บะหมี่สำเร็จรูปมีสารกัดบูด สารแต่งรสค่อนข้างสูง และมีคุณค่าทางอาหารต่ำ การกินบะหมี่สำเร็จรูปมากเกิน หรือบ่อยเกินอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคขาดอาหาร และการสะสมสารพิษได้ 8. เมล็ดทานตะวัน : เมล็ดทานตะวันมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ทว่า... การกินมากเกิน หรือบ่อยเกินอาจทำให้กระบวนการเคมี (metabolism) ในร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิดการสะสมไขมันในตับ ภาวะไขมันในตับสูงอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคตับ เช่น ตับแข็ง ฯลฯ เพิ่มขึ้น 9. เต้าหู้หมัก เต้าหู้ยี้ : กระบวนการหมักเต้าหู้อาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่าย... ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคนสูงอายุ หรือเด็กเล็กได้ นอกจากนี้กระบวนการผลิตยังทำให้เกิดไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย 10. ผงชูรส : คนเราไม่ควรกินผงชูรสเกินวันละ 6 กรัม หรือประมาณ 1 ช้อนชา... การกินผงชูรสมากเกิน หรือบ่อยเกินทำให้เกิดภาวะกรดกลูตามิกในเลือดสูง อาจทำให้ปวดหัว ใจสั่น คลื่นไส้ และมีผลเสียต่ออวัยวะสืบพันธุ์ |
วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553
ความเคยชินที่ทำให้ "ไร้สวย"
มีหลายเรื่องที่สาว ๆ อย่างเราหลายคนทำจนชิน จนติดเป็นนิสัย โดยไม่ทราบเลยว่าสิ่งที่กำลังทำนั้น สร้างริ้วรอยและปัญหาหลาย ๆ อย่างบนผิวเราเอง เสร็จแล้วก็ไปสรรหาวิธีการมาแก้ปัญหาเหล่านั้น แท้ที่จริงแล้ว แก้ที่ต้นเหตุง่ายกว่ากันเยอะเลย..
ลองมาดูวิธีละทิ้งนิสัยที่ทำให้สาวสวยอย่างเราไร้สวยกันดีกว่านะคะ...
1. เข้านอนโดยไม่ได้ล้างหน้า
หากเป็นแค่ลิปสติกเล็ก ๆ น้อย ๆ คงจะไม่หนักหนา แต่ทว่านอนหลับไปทั้งเมคอัพ รองพื้น แป้งฝุ่น อายแชโดว์ มาสคาร่า คงจะไม่ดีแน่ค่ะ เพราะเครื่องสำอางรวมทั้งคราบเหงื่อไคลและฝุ่นละออง จะทำให้รูขุมขนอุดตัน อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ริ้วรอย และทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น
2. บีบสิว ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด นอกจากสิวนั้นจะสุกจนหัวใกล้ระเบิดออกมาเท่านั้น การแกะ เกา บีบ จะทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายภายใต้ผิว ทำให้เกิดสิวมากขึ้นไปอีก และจะทิ้งรอยจารึกอยู่บนผิวคุณอีกนานนับเดือน
3. ยืมเครื่องสำอางกันใช้
ห้ามอย่างเด็ดขาด แม้กระทั่งดินสอเขียนขอบปากหรือลิปสติก เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองบริเวณปาก หากผู้ที่เราหยิบยืมของมา เป็นโรคปากเปื่อย เฮอร์พีซ ไวรัส ซึ่งอาจติดต่อถึงเราได้ เครื่องสำอางรอบดวงตาก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นดินสอเขียนตา อายไลเนอร์ เพราะอาจทำให้เราติดเชื้อพวกตาแดงได้
4. หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา
เมื่อเวลาเครียด ประสบปัญหา สาวสวยอย่างเรามักลืมตัวชอบทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ซึ่งการทำเช่นนี้ก่อให้เกิดริ้วรอย เมื่อรู้ตัวว่ากำลังคิ้วขมวด ให้รีบแก้ไขด้วยการเบิกตาให้ดูกว้างขึ้น ยิ้มหวาน ๆ และท่องในใจว่า ไม่เครียด เดี๋ยวแก่...
5. กัดเล็บ
การกัดแทะเล็บนั้นแสดงถึงความเป็นคนไม่ใส่ใจในบุคลิก นอกจากนี้ในด้านสุขภาพยังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ลองส่องกล้องจุลทรรศน์ดู จะเห็นเชื้อโรคพวกแบคทีเรียเกาะอยู่ตามเล็บของเราเต็มไปหมด
6. ใช้สบู่ล้างหน้า
สบู่เป็นตัวการทำลายน้ำหล่อเลี้ยงผิว นอกจากจะทำให้ผิวแห้งแล้ว ยังทิ้งสารตกค้างที่เป็นสารชะล้างไว้บนผิวอีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่มีส่วนผสมของสบู่ เพื่อรักษาความสวยของผิวพรรณไว้จะดีกว่าค่ะ
7. ชอบจับต้องใบหน้า นั่งเท้าคาง
การที่เราใช้มือจับต้องสิ่งต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน แล้วมาจับต้องใบหน้า เกาและเท้าคาง เป็นการถ่ายทอดเชื้อโรคสู่ผิวหน้า ทำให้เกิดสิว และผื่นต่างๆ ได้ง่าย
8. เลียริมฝีปากอยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นนิสัย หรือการพยายามสร้างความเซ็กซี่ให้แก่เรียวปากก็ตามที ควรเลิกนิสัยนี้โดยเด็ดขาดเพราะผิวปากจะแห้งกร้าน ลองหันมาใช้ลิปสติกปกป้องบำรุงริมฝีปากแทนจะดีกว่าค่ะ
9. ดึงทึ้งเส้นผมเล่น
เป็นนิสัยที่ควรละเว้น เพราะจะทำให้เส้นผมอ่อนแอ หลุดร่วงได้ง่าย การรวบผมตึงแน่นเกินไปเป็นประจำก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง
10. ยืนงอ ห่อตัว
แม้จะสวยกว่านางงาม หากยืนห่อไหล่ ห่อตัว จะทำให้ดูไม่สง่างามเลย นอกจากจะเสียบุคลิกแล้ว อาจทำให้ปวดหลังและเป็นโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารได้ค่ะ
ทราบแบบนี้แล้ว ข้อไหนที่ยังปฏิบัติอยู่ ถ้าลด ละ เลิก ได้ เราก็จะเป็นสาวสวยอย่างสมบูรณ์แบบได้แน่นอนค่ะ...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)